“การที่เรารักกัน รู้สึกดีต่อกัน มันผิดมากเลยเหรอ?”
ประโยคคำถามจากปาก ‘ที’ นักเรียน ม.6 ถึง ‘ครูอร’ ครูประจำชั้น
จากซีรีส์สุดฮิต Club Friday The Series 5 ตอน ความลับของห้อง ม.6/3
ไม่ได้มีเพียงแต่ในละครเท่านั้น สำหรับเรื่องราวความรักที่ต่างสถานภาพกันระหว่างครูกับนักเรียน แต่ในชีวิตจริงก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเช่นกัน จากเค้าโครงเรื่องจริง จึงได้ก่อเกิดเป็นหนังให้ได้รับชม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อซีรีส์เรื่องดังกล่าวฉาย ทำให้สังคมไทยเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่หยุดหย่อน โต้เถียงกันถึงเรื่องราวความรักระหว่างครูกับนักเรียน บ้างก็ว่า โลกสมัยนี้พัฒนาไปไกลแล้ว ความรักห้ามกันไม่ได้ไม่ว่าจะอยู่อาชีพอะไรก็ตาม บ้างก็ไม่เห็นด้วย ไม่เหมาะสม ครูเปรียบดั่งแม่คนที่สอง การจะไปมีความรักกับนักเรียนจึงถือเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณความเป็นครู!
จุดเริ่มต้นของสัมพันธ์รัก ครู-นักเรียน
อาจารย์แม่ ไม่เห็นด้วยกับสัมพันธ์รักครู-นักเรียน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ ดร.สุนีย์ สินธุเดชะ หรือที่เรียกกันว่า ‘อาจารย์แม่’ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต โดยอาจารย์แม่ ได้แสดงทัศนะเรื่องความรักระหว่างครูกับนักเรียนว่า ความรักของคนที่ประกอบอาชีพครู คือ ความผูกพันระหว่างครูกับลูกศิษย์ โดยเป็นภาระหน้าที่ของครูที่จะต้องมีความเอื้อเฟื้อความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงให้ความผูกพันและความปรารถนาดีต่อลูกศิษย์ สิ่งที่เอื้อนเอ่ยมาเหล่านี้ คือ ความรักที่แท้จริงที่คนเป็นครูควรมอบให้
สำหรับความรักในเชิงชู้สาวระหว่างครูกับนักเรียนนั้น อาจารย์แม่ กล่าวว่า “สันดานเลว มันเป็นความเลวร้ายที่สุดที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น วัฒนธรรมไทยยกย่องครูสูงส่งรองจากพ่อแม่ ฉะนั้นการที่ครูกับนักเรียนมารักกันเป็นแฟนกัน จึงเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก คนที่กระทำแบบนี้ได้ไม่ใช่ครูแล้ว”
“ไม่เหมาะเลย เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด และไม่สมควรให้เกิดขึ้นด้วย ทำไมถึงห้ามใจไม่ได้ คนเราห้ามใจไม่ได้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วในชาตินี้ ทำงานอยู่ง่วงนอนแล้วก็นอน มันใช้ได้หรือ เรื่องของความรักครูกับลูกศิษย์ ขอร้องว่า ถ้ารักก็ควรเมตตา เอ็นดู สอนหนังสือ ให้ข้อคิด ให้ชีวิต ไม่ใช่มาทำแบบนี้” อาจารย์นักพูดชื่อดัง แสดงความเห็นเชิงติเตียน
ครูสอนภาษาไทยชื่อดัง
ขณะที่ ทีมข่าวฯ ได้สอบถามไปยัง นายกิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ หรือ 'ครูลิลลี่' ครูสอนภาษาไทยชื่อดัง ถึงประเด็นดังกล่าว โดยครูลิลลี่ นิ่งคิดสักพักก่อนบอกว่า “ตอบลำบาก เป็นคำถามที่ยากมาก” พร้อมอธิบายต่อว่า ครูคือ คน ลูกศิษย์ก็คือ คน อยู่ในสถานภาพที่ขัดแย้งกันอยู่ในสังคมไทย ไม่มีอะไรถูกและไม่มีอะไรผิด ขึ้นอยู่กับว่าควรหรือไม่ควร ยิ่งเป็นนักเรียนอยู่ในโรงเรียนก็ยิ่งไม่สมควรที่จะแสดงออก แต่หากเรียนจบไปแล้ว และโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง การรักกันไม่ผิด อยู่ที่ว่าถูกต้องกับถูกใจ รวมไปถึง ยังไม่ใช่เรื่องที่ผิดจรรยาบรรณ หากไม่ถึงขั้นกระทำชำเรา แต่แค่ไม่สมควร
ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยรับวัฒนธรรมอันหลากหลายเข้ามา จึงมีส่วนทำให้เกิดเรื่องราวความรักต่างสถานภาพกัน หากวัฒนธรรมไทยไปคล้ายกับเกาหลีหรือญี่ปุ่น ก็อาจเป็นเรื่องที่ไม่ผิดปกติ เพราะว่าบรรทัดฐานของสังคมไม่เท่ากัน แต่คิดว่าตอนนี้สังคมไทยอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างกึ่งใหม่กึ่งเก่า ยังไม่พร้อมที่จะรับวัฒนธรรมแบบนี้ อีกทั้ง ถึงแม้ในปัจจุบันอายุของครูกับนักเรียนห่างกันไม่มาก ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวที่จะทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะสำหรับเรื่องความรักแล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุ จะมากจะน้อยก็รักกันได้ แต่เรื่องราวของครูกับนักเรียน ขึ้นอยู่กับสถานภาพทางสังคมมากกว่า
วัยเรียนต้องแสดงออกอย่างเหมาะสม
เมื่อทีมข่าวฯ ถามว่า หากความรักระหว่างครูกับนักเรียนเกิดขึ้นมาแล้ว ควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ? ครูลิลลี่ ตอบว่า เป็นความรักที่ต้องแอบ จะแสดงออกมาไม่ได้ เพราะไม่ใช่รักที่ปกติ เนื่องด้วยสถานะยังไม่พร้อมที่จะเปิดตัวว่าเป็นแฟนกัน จนกว่านักเรียนจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่มีงานมีการทำ อยู่ที่เวลาที่เหมาะสม และรอให้สุกงอมพร้อมกว่านี้จึงค่อยเปิดตัว
“คิดว่าไม่สมควร แต่ก็ไม่ได้ผิด ความรักมันออกแบบไม่ได้ ไม่มีแบบตายตัว มันไม่ใช่เรื่องที่จะมีกฎเกณฑ์ห้าม แต่มันเป็นวิถีชีวิตทั่วไปของชาวบ้าน ขึ้นอยู่กับว่าถูกต้องหรือถูกใจ” ครูลิลลี่ กล่าว
อาจารย์นาวิน ต้าร์ สุดหล่อ
ดร.นาวิน เยาวพลกุล หรือ ‘นาวิน ต้าร์’ นักร้องนักแสดงและอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยถึงมุมมองส่วนตัวในเรื่องความรักระหว่างครูกับลูกศิษย์ว่า ในความเป็นจริงครูกับศิษย์ก็มีความรักและความหวังดีในรูปแบบของการเป็นครูและศิษย์กันอยู่แล้ว ส่วนการที่ความรักนั้นจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นเรื่องชู้สาวก็คงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ซึ่งในความเห็นส่วนตัวจึงคิดว่าไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่สำหรับบางคนถ้าจะรักกันจริงๆ ก็คงจะห้ามไม่ได้เพราะความรักเป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน
ทั้งนี้ ทีมข่าวฯ ถามเพิ่มเติมว่า หากเกิดความรู้สึกรักแบบชู้สาว จะแก้ปัญหาอย่างไร อาจารย์หนุ่มสุดหล่อ ตอบว่า ต้องดูว่าความรักนั้นเป็นปัญหาของคนทั้งคู่และทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตัวพวกเขาและคนรอบตัวหรือไม่ บางครั้งครูกับศิษย์อาจจะคบกันหลังจากที่ได้เรียนจบไปแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด แต่ถ้าหากคบกันขณะที่ศิษย์ยังเรียนกับครูคนนี้อยู่ ก็อาจทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจต่อคนรอบข้างว่า ครูมีความเมตตาให้ศิษย์ทุกๆ คนอย่างเท่าเทียมกันจริงหรือไม่ นั้นจึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทั้งสถานศึกษา ตัวของครูและศิษย์ รวมถึงคนรอบข้างด้วย อย่างไรก็ตาม ดร.ต้าร์ ยังยืนยันคำเดิมว่า มันไม่ควรเกิดขึ้น และสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในหลักการทำงานเป็นครูของเขา
“สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับลูกศิษย์ มันไม่ค่อยเหมาะสมและสำหรับผมเองก็ไม่คิดที่จะทำ ดังนั้น ถ้ามันจะเกิดขึ้นกับใคร ผมก็ไม่รู้ว่าศีลธรรมและจรรยาบรรณของเขามันเป็นอย่างไร มันอาจจะอยู่คนละเล่มกับผม แต่ไม่ว่าใครจะมองว่ามันเป็นอย่างไร มันก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งบางครั้งความรักกับความเหมาะสมมันไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกัน บางคนรักกันถึงขั้นที่จะต้องทำอะไรบางอย่างที่มันขัดกับหลักศีลธรรม แต่ความรักก็คือความรัก บางครั้งมันก็มาพร้อมกับการที่มันต้องทำลายอะไรบางอย่าง แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คนสองคนมีความสุข เราเองไปพูดอะไรกับมันไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่ใช่คนๆ นั้นเอง เราไม่มีทางเข้าใจเขาเพราะสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของแต่ละคนอยู่ดี” อาจารย์ต้าร์ แสดงทัศนะส่วนตัว
ครูทอม คำไทย
ด้าน นายจักรกฤต โยมพยอม หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ครูทอม คำไทย’ พิธีกรรายการโทรทัศน์และครูสอนภาษาไทย มองเรื่องความรักว่าเป็นเรื่องของจิตใจ เรื่องของอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าครูกับนักเรียนจะรักกันเชิงชู้สาว แต่จะต้องรู้จักควบคุมการกระทำของตัวเองให้ได้ จะรักก็รักกันย่อมได้ แต่การแสดงออกต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม สำหรับในปัจจุบันคู่รักส่วนใหญ่ที่เห็นกันในสังคมก็อายุห่างกันไม่มาก ในกรณีของครูกับนักเรียน ถ้าอายุไม่ห่างกันเท่าไหร่ก็มีโอกาสที่จะเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกันได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าครูกับนักเรียนจะอายุห่างกันมาก แต่ถ้ารักกันจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะคบกัน
ครูทอม ถ่ายทอดประสบการณ์ความเป็นครูให้ทีมข่าวฯ ฟังว่า "หลายครั้ง ความรู้สึกรัก เกิดจากการที่อีกฝ่ายทำสิ่งดีๆ ให้ คนเป็นครูโดยเนื้อแท้แล้วก็ต้องมอบสิ่งดีๆ ให้แก่ลูกศิษย์เป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้ลูกศิษย์บางคนที่ประสบการณ์การใช้ชีวิตยังไม่มาก จึงอาจจะเข้าใจหรือคิดไปเองว่าครูอาจจะมีใจให้แก่ตน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ครูก็อาจจะทำสิ่งนั้นกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นเป็นปกติอยู่แล้ว"
จริงๆ แล้วครูอาจจะให้ความสำคัญกับนักเรียนทุกคนเท่าๆ กันก็ได้
สังคมไทยต่างยกย่อง ‘ครู’ เปรียบเสมือน ‘แม่คนที่ 2’ ครูสอนภาษาไทยชื่อดัง ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นค่านิยมของคนไทยมาช้านานว่าครูเปรียบเสมือนพ่อ-แม่คนที่ 2 เพราะครูคือผู้ที่คอยดูแล เอาใจใส่ อบรมให้เราเป็นคนดี ให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้ แต่อย่าลืมว่านั่นก็เป็นแค่ ‘ความเปรียบ’ ซึ่งในความเป็นจริง ครูก็เป็นครู ไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของศิษย์ จึงไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมอะไรถ้าครูจะรักใคร่ชอบพอกับศิษย์ แต่ก็ต้องแสดงออกอย่างเหมาะสมด้วย
นอกจากนี้ ครูทอม ยังได้ให้คำแนะนำว่า หากเกิดชอบพอกันขึ้นมาจริงๆ และยังอยู่ในสถานะของครู-นักเรียนทั้งคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นนักเรียนในปกครองของครูคนนั้น ทั้งคู่ไม่ควรแสดงออกในที่สาธารณะ ไม่ควรเปิดเผยให้คนอื่นรู้ เพราะว่าจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นที่คนอื่นมีต่อครู อาจจะมีคนเอาไปพูดให้เสียหายว่าครูอาจจะโกงคะแนนให้ศิษย์ แม้ว่าจริงๆ แล้วจะไม่ได้ทำ หรือบางครั้ง เมื่ออคติบังตา ครูอาจจะเผลอตรวจและให้คะแนนนักเรียนคนรักของตนมากกว่าให้นักเรียนคนอื่นก็เป็นได้
“ความรักไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม มันเป็นเรื่องดีอยู่แล้วครับถ้าคนเราจะมีความรักให้แก่กัน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะหรืออาชีพใด แต่เราต้องมีสติ ต้องรู้ว่าควรประพฤติตนเช่นไร เพราะความรู้สึกมันควบคุมไม่ได้ แต่เราทุกคนสามารถควบคุมการกระทำของตนได้”ฝากไว้ให้คิด โดย ครูทอม คำไทย
...แล้วคุณล่ะ คิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร ?
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
