Digital HRM ปี2023

  • 24 Jan 2025
  • 1606
หางาน,สมัครงาน,งาน,Digital HRM ปี2023

Digital HRM ปี2023 ต้องทำอะไรบ้าง ? มี 9 ข้อสำคัญ มาเตรียมตัวให้พร้อมกับ HR Buddy เลยค่ะ

 

1 การกำหนดนโยบายการทำงานระยะไกล

สำหรับพนักงานที่ไม่ได้เข้าออฟฟิศ ต้องกำหนดเป้าหมายสุดท้ายของงาน ระยะเวลาการรายงานความคืบหน้าที่ชัดเจน สามารถติดตามตรวจสอบและวัดผลได้ เพื่อให้ผลลัพธ์การทำงานเป็นไปตามเป้าหมายองค์กร

 

2 การใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีทำงานร่วมกัน (Collaboration tools)

พนักงานทุกคนเข้าถึง HR ได้ง่ายขึ้น สามารถติดต่อสื่อสาร แจ้งข่าว ส่งข้อมูลการทำงานเข้าระบบได้ตลอดเวลา สามารถขอคำปรึกษา ขอข้อมูลระบบ หรือขอความช่วยเหลือจาก HR ได้ตลอดเวลา มีการแจ้งสถานะว่าแต่ละข้อมูลอยู่ในขั้นตอนใด เช่น รับทราบข้อมูล, อยู่ระหว่างตรวจสอบ, อยู่ระหว่างแก้ไข, งานเสร็จสมบูรณ์ หรือปฏิเสธการรับเรื่อง โดยแจ้งหมายเหตุที่ชัดเจน

 

3 การสื่อสารกับพนักงานต่างรูปแบบการทำงาน

เมื่อพนักงานมีรูปแบบการทำงานที่ต่างกัน เช่น ทำงานในออฟฟิศ, ทำงานนอกสถานที่, WFH เป็นต้น HR ต้องออกแบบวิธีสื่อสารให้ทุกคนได้รับข้อมูลอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น Face to Face หรือ Remote Communication และจำเป็นต้องฝึกทักษะให้พนักงานใช้วิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันได้อย่างชำนาญ

 

4 การสร้างวัฒนธรรม (Culture) และการมีส่วนร่วม (Engagement) ในการทำงาน

ทั้งพนักงานที่ทำงานในออฟฟิศและนอกออฟฟิศ  จะต้องได้รับการสื่อสารถึงวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรและพฤติกรรมการทำงานที่สร้างผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกเป็นคนขององค์กร มีความรับผิดชอบเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน แม้ไม่ได้ทำงานในพื้นที่เดียวกัน

 

5 การตรวจสอบสุขภาพจิตของ Remote Worker

HR ต้องมีแนวทางในการตรวจสอบสุขภาพจิตของ Remote worker เนื่องจากการนั่งทำงานคนเดียวที่บ้านหรือต่างสถานที่ ทำให้เกิดความเครียดและหมดไฟในการทำงานได้ง่าย HR ต้องตื่นตัวและหมั่นตรวจสอบสภาพจิตใจของพนักงาน หากมีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาใด ๆ จะได้แก้ไขทันเวลา

 

6 สร้างหรือใช้ระบบ HRIS ให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด

HR ต้องมีทักษะในการใช้ software ที่มีอยู่หรือสรรหามาใช้ เพื่อเป็นตัวรวบรวม จัดเก็บข้อมูลสำหรับใช้วิเคราะห์ เพื่อนำเสนอข้อมูลของบุคลากรผ่าน HR Dashboard ได้อย่างละเอียดแก่ผู้บริหาร เพื่อให้สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาองค์กรให้เติบโตได้ต่อไป

 

7 เรียนรู้การใช้งาน Outsourcing, Freelancer, Gig Worker

สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นคือ คนทำงานมีการเลือกอาชีพและรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป องค์กรต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานเช่นกัน โดยเฉพาะการปรับตัวมาใช้ Outsourcing, Freelancer, Gig Worker ในบางงาน ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเปิดตำแหน่งงานประจำขึ้นแล้วจ้างบุคลากรเข้ามาในองค์กร โดยมีระบบการประเมินคุณภาพของกลุ่มคนเหล่านั้นที่เหมาะสมกับแต่ละรูปแบบงาน เพื่อเรียกใช้ในอนาคตด้วย

 

8 การบริหารโครงการ (Project)

งานของ HR หลายอย่างเกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับคนในองค์กรทั้งหมด หากพบว่ามีงานใดที่เข้าข่ายดังกล่าว HR จะต้องนำงานเข้าสู่ระบบการทำงานแบบโครงการ ซึ่ง HR เป็นแม่งานร่วมกับผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ HR ต้องฝึกทักษะการทำงานโครงการให้ชำนาญ เพื่อนำโครงการสู่ความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยลดการทำงานแบบดั้งเดิมหรือ Silo ตัวใครตัวมัน แผนกใครแผนกมัน และจะทำให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างฝ่าย รวมตัวกันกลุ่มเล็ก ตัดสินใจรวดเร็ว ทิ้งการทำงานแบบ Hierarchy หรือแบบโครงสร้างที่ซับซ้อนล่าช้า

 

9 การตั้งรับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร

นอกจากต้องทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอแล้ว เพื่อให้องค์กรปรับตัวได้ทันทุกสถานการณ์ HR ต้องสามารถประเมินผลกระทบจากแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กร (Organization Development : OD) ให้ได้ต่อไปด้วย ซึ่งจะทำให้องค์กรเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นกว่าเดิม

 

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/hrbuddybyjobbkk

ขอบคุณข้อมูล :  อาจารย์ พรเทพ พงษ์สง่างาน  ที่ปรึกษาอาวุโสด้าน HR และกรรมการ บริษัท เซ็นเมนทอร์ จำกัด ,กรรมการบริหาร APK Management Center

Website : www.senmentor.com

Line : wisebrown

Tel : 081-820-9271

 

สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : 02-514-7474 ต่อ 3

อีเมล : [email protected]

Line : @jobbkkvip (อย่าลืมใส่ @)

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top